Saturday, June 29, 2013

"มะเฟือง"ไม้ผลที่ดูแลง่าย มีผลตลอด

"มะเฟือง"ไม้ผลที่ดูแลง่าย มีผลตลอด
ลักษณะทั่วไป

มะเฟืองมีชื่อเรียกในภาษาท้องถิ่นว่า ส้มเฟือง มีชื่อสามัญว่า คาแรมโบลา (Carambola) หรือ สตาร์แอปเปิ้ล (Star apple) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า อะเวอร์โร คาแรมโบลา (Averrhoa carambola L.) จัดอยู่ในวงศ์ ออกซาลิดาซีอี้ (OXALIDACEAE)

ประโยชน์และคุณค่าทางสมุนไพรของมะเฟือง

ใช้ เป็นเครื่องเคียงอาหารรับประทานสดๆ และแปรรูปเป็นน้ำผลไม้ คุณค่าทางอาหารของมะเฟืองอุดมไปด้วย วิตามินเอ วิตามินบี1 วิตามินบี2 ไนอะซีน โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมันเส้นใย

แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็กและพลังงาน

ผลมะเฟือง : ให้วิตามินเอ และวิตามินซี ฟอสฟอรัส แคลเซียม

ใบและราก : ปรุงรับประทานเป็นยาดับพิษร้อน แก้ไข้ ใช้ใบต้มน้ำอาบแก้ตุ่มคัน

ผล : ใช้เป็นยาขับเสมหะ ขับปัสสาวะ ใช้สระบำรุงเส้นผม และขจัดรังแค

ยอด : มะเฟือง+รากมะพร้าว ต้มผสม แก้ไข้หวัดใหญ่
แก่นและราก ต้มกินแก้ท้องร่วง แก้เจ็บเส้นเอ็น

ใน มะเฟืองหนึ่งผลนั้น สามารถที่จะช่วยเสริมสร้างกระดูก และฟันให้แข็งแรง ควบคุมการเต้นของหัวใจให้สม่ำเสมอ ควบคุมกล้ามเนื้อ ช่วยให้เลือดแข็งตัวง่าย กล่อมประสาท ช่วยระงับความฟุ้งซ่าน จึงช่วยให้นอนหลับง่ายขึ้น ในผู้ที่มีปัญหาเรื่องการนอนไม่หลับ ส่วนน้ำมะเฟืองคั้นนั้น ตำรายาโบราณกล่าวว่า มีสรรพคุณในการแก้ร้อนใน ดับกระหาย ลดความร้อนภายในร่างกาย ถอนพิษไข้ก็ได้ เป็นยาขับเสมหะ ป้องกันโรคโลหิตจาง โรคเลือดออกตามไรฟัน รวมทั้งยังช่วยขับปัสสาวะ และบรรเทาอาการนิ่วในทางเดินปัสสาวะได้อีกด้วย


ปลูกไว้ 2 ต้น ถ้าจำไม่ผิดต้นนี้น่าจะเป็นพันธุ์ไต้หวัน ลักษณะผลบิด ๆ เบี้ยว ๆ


 และอีกต้นเป็นพันธุ์มาเลย์

นิยมปลูกกันอยู่สองตัวครับ สำหรับมะเฟือง..ทีรสชาติหวาน..คือมาเลย์ 10 กับ มาเลย์ 17..ผมก็ปลูกไว้หนึ่งต้นเป็น หวานเบอร์ 17..ต้นเดียวก็กินไม่หวัดไม่ไหวแล้วครับ.

   เคยไปชมสวนสุภัทราแลนด์ เค้าปลูกเป็นดงเชียว
มองเผินๆ นึกว่าเป็นไม้ซุ้มซะอีก วันนี้เพิ่งรู้ว่าเป็นไม้ยืนต้น

มะเฟือง..เค้าบอกว่าผู้หญิงทานมากๆ ไม่ดีนะคะ
จะทำให้เป็นระดูขาว ไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่า
จำได้ว่าตอนแรกรุ่น ( ตอนนี้ก็รุ่นเหมือนกันค่ะ แต่เป็นรุ่นแง้มฝาโลง คริ คริ ) เตี่ยมักดุไม่ค่อยยอมให้ทาน
ไม่รู้ว่าห่วงลูกสาวหรือหวงมะเฟืองกันแน่ ฮา..เรามันคนกินเก่ง กินจุ...

  ไม่ทราบว่ามะเฟืองนี้เขาปลูกโดยใช้กิ่งตอน หรือเพาะเมล็ดครับ
เป็นไม้อีกต้นที่ตั้งใจจะปลูก ตั้งใจว่าจะไปหาซื้อในงานเกษตรแฟร์ตอนต้นเดือน กพ แต่เขายกเลิกไป




มะเฟือง (Starfruit) สมุนไพรรูปดาว 5 แฉกที่มากด้วยประโยชน์




มะเฟือง (ชื่อวิทยาศาสตร์: Averrhoa carambola L.; ชื่อสามัญ: Carambola) เป็นไม้ต้นพื้นเมืองของอินโดนีเซีย อินเดีย และศรีลังกา และเป็นที่นิยมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไทย มาเลเซีย
และบางส่วนของ เอเชียตะวันออก รวมทั้งมีเพาะปลูกในสาธารณรัฐโดมินิกัน บราซิล เปรู กานา Guyana ซามัว ตองกา ไต้หวัน French Polynesia คอสตาริกา และ ออสเตรเลีย
ในสหรัฐอเมริกามีแหล่งเพาะปลูกเชิงพาณิชย์อยู่ที่ฟลอริดาตอนใต้และฮาวาย


ชื่อวิทยาศาสตร์:   Averrhoa carambola L.
ชื่อวงศ์: OXALIDACEAE
ชื่อสามัญ: Carambola
ชื่อท้องถิ่น: ส้มเฟือง
ลักษณะวิสัย: ไม้ต้น

ลักษณะทั่วไป:  ไม้ยืนต้นสูง 3-5 เมตร  ใบเป็นใบประกอบแบบขนนก  ปลายคลี่  เรียงสลับใบย่อย 5 -11 ใบ  รูปใบหอกแกม  ขอบขนาน กว้าง 2-4   เซนติเมตร
ยาว 4-7 เซนติเมตร ปลายแหลม ลำต้นมีสรน้ำตาล  เปลือกลำต้นไม่เรียบ  ใบเป็นปบประกอบรวมกันแผงคล้ายใบมะยม  รูปใบมนรีขอบใบเรียบ  ก้านใบสั้น  ใบย่อย
ที่ปลายก้านมักใหญ่  ออกดอกเป็นช่อสั้น ๆ

ประโยชน์:  ใช้เป็นเครื่องเคียงอาหารรับประทานสดๆ และแปรรูปเป็นน้ำผลไม้

การขยายพันธุ์: เพาะเมล็ด  และตอนกิ่ง

การกระจายพันธุ์: คาบสมุทรแปซิฟิก และมาเลเซีย แพร่กระจายในเขตร้อนทั่วไป รวมทั้งประเทศไทย

การปลูก:
  มะเฟืองเป็นต้นไม้ที่มีความสวยงาม  ทั้งทรงต้น  ดอกช่อ  และรูปผล  สามารถปลูกเป็นไม้ประดับภายในบ้านได้เป้นอย่างดี  เป็นพืชที่ขึ้นได้ในสภาพที่
ความชื้นสูง  ทั้งที่มีแสงแดดจัด หรือแสงแดดปานกลาง  ในกรณีที่จะปลูกเป็นไม้ประดับ ควรปลูกในที่มีแสงแดดปานกลางา  มีความชื้นสูง ต้นจะเขียวสวย ตัดกับ
ช่อดอกซึ่งมีสีม่วงแกมแดง

ราก มีรสหวานเย็น ใช้แก้วปวดหัว ปวดกล้ามเนื้อ ปวดตามข้อ ช่วยแก้
ไข้ดับพิษร้อน แก้อาการปวดแสบในกระเพาะ รวมถึงอาการจุแน่นหน้าอก

เปลือกของต้น เป็นผิวบางเรียบ มีรสฝาด ช่วยแก้ไข้ ท้องเสีย ดับพิษ แผลปวดแสบปวดร้อน

เมล็ด มีลักษณะเป็นสีดำยาวเรียว ขนาดประมาณ ½ เซนติเมตร มีรสขมเย็น ใช้บรรเทาอาการปวด
แก้ไข้ แก้ปวดท้อง แก้ดีซ่าน ขับระดู ช่วยให้นอนหลับสนิทตลอดคืน

ผล
เป็น ส่วนที่มีสรรพคุณทางยาเหลือล้น มีรสหวานอมเปรี้ยว แก้โรคได้สารพัด ทั้งแก้ไอ แก้ไข้ แก้คอแห้ง
แก้กระหายน้ำ แก้อาเจียน แก้อาการเลือดออกตามไรฟัน แก้บิด ช่วยระงับความต้อน ถอนพิษผิดสำแดง ช่วยขับน้ำลาย
ลดอาการอักเสบบวมช้ำ ใช้ขับปัสสาวะ ขับนิ่วได้ดี

น้ำที่คั้นจากผล เมื่อดื่มเข้าไปแล้วจะช่วยแก้ไข้ แก้ม้ามโต หรือจะผสมกับสารส้มดื่มจะช่วยขับนิ่วและรักษาโรคหนองในได้
บางคนใช้ผลมะเฟืองสระผม ช่วยบำรุงเส้นผม และขจัดรังแคได้ดีกว่าแขมพูยี่ห้อแพงๆ ทั้งหลาย

ดอก
มีรสเย็นจืด ช่วยขับพยาธิ แก้ไข้หนาวๆ ร้อนๆ ได้เยี่ยม

ใบ มี รสจืด มัน เย็น ใช้แก้ไข้ดับพิษร้อน ถอนพิษไข้หวัด ทั้งหวัดธรรมดาและไข้หวัดใหญ่ ช่วยรักษาอาการขัดเบาและขับปัสสาวะได้ดี
หรือจะเอาไปต้มน้ำอาบ นำมาบดแล้วทา หรือ พอก ช่วยแก้เม็ดผดผื่นคัน แผลบวมช้ำ แผลเป็นหนอง ซ้ำยังมีสรรพคุณช่วยห้ามเลือดกับถอนพิษงู
แก้พิษแมงมุมกัดได้อย่างไม่น่าเชื่อ


ขอบพระคุณข้อมูลจากเวบไซต์ http://www.decorliving.com


ตำรับยาอย่างง่าย

ปวดหัวเรื้อรัง: รากมะเฟืองสด 30-60กรัม เต้าหู้ 120กรัม ต้มรวมกัน รับประทานน้ำวันละครั้ง

เจ็บคอ: รับประทานมะเฟืองสด ครั้งละ 1-2 ผล วันละ 2-3 ครั้ง

ไอเนื่องจากหวัด: ให้รับประทานมะเฟืองสดวันละหลายครั้ง

Friday, June 28, 2013

มะเฟือง

   มะเฟือง
 

รหัส:
7-10110-003-179
ต้นไม้ประจำตัวครู: คุณครูวิบูลย์ลักษณ์  สายะโสภณ
ตำแหน่ง: ครูผู้สอน
ชื่อวิทยาศาสตร์ Averrhoa carambola L.
ชื่อวงศ์: OXALIDACEAE
ชื่อสามัญ: Carambola
ชื่อท้องถิ่น: ส้มเฟือง
ลักษณะวิสัย: ไม้ต้น

ลักษณะทั่วไป:
 ไม้ยืนต้นสูง 3-5 เมตร  ใบเป็นใบประกอบแบบขนนก  ปลายคลี่  เรียงสลับใบย่อย 5 -11 ใบ  รูปใบหอกแกม  ขอบขนาน กว้าง 2-4   เซนติเมตร 
ยาว 4-7 เซนติเมตร ปลายแหลม ลำต้นมีสรน้ำตาล  เปลือกลำต้นไม่เรียบ  ใบเป็นปบประกอบรวมกันแผงคล้ายใบมะยม  รูปใบมนรีขอบใบเรียบ  ก้านใบสั้น  ใบย่อย
ที่ปลายก้านมักใหญ่  ออกดอกเป็นช่อสั้น ๆ
ประโยชน์:  ใช้เป็นเครื่องเคียงอาหารรับประทานสดๆ และแปรรูปเป็นน้ำผลไม้
การขยายพันธุ์: เพาะเมล็ด  และตอนกิ่ง
การกระจายพันธุ์: คาบสมุทรแปซิฟิก และมาเลเซีย แพร่กระจายในเขตร้อนทั่วไป รวมทั้งประเทศไทย
การปลูก:  มะเฟืองเป็นต้นไม้ที่มีความสวยงาม  ทั้งทรงต้น  ดอกช่อ  และรูปผล  สามารถปลูกเป็นไม้ประดับภายในบ้านได้เป้นอย่างดี  เป็นพืชที่ขึ้นได้ในสภาพที่
ความชื้นสูง  ทั้งที่มีแสงแดดจัด หรือแสงแดดปานกลาง  ในกรณีที่จะปลูกเป็นไม้ประดับ ควรปลูกในที่มีแสงแดดปานกลางา  มีความชื้นสูง ต้นจะเขียวสวย ตัดกับ
ช่อดอกซึ่งมีสีม่วงแกมแดง

 มะเฟืองหน้าบ้าน
และแล้วในที่สุด ผมก็นึกขึ้นมาได้คงจะต้องเขียนเรื่องของมะเฟืองนี้ได้แล้ว หลังจากที่ได้กินไปเมื่อสัปดาห์ก่อนเพียงลูกเดียว เนื่องจากคุณน้องกับท่านผบ.ทบ.ได้กินประมาณ4-5ลูกใหญ่จนหมด แต่โชคดียังมีอีกลูกหนึ่งยังไม่ได้ปลอกหรือหั่นออกมา ผมจึงขอออกเสียงครอบครองมะเฟืองผลนี้ ซึ่งเป็นลูกสุดท้ายในชุดแรกที่ออกมา
รสชาติที่ได้ถึงแม้จะมาจากลูกที่เล็กไม่สมบูรณ์ แต่ก็ออกหวานๆไม่เปรี้ยว เมื่อดูสีของดอกก็เป็นไปตามที่คุณGolbได้บอกไว้ว่าก่อนหน้านี้
“มะเฟืองบ้านผมออกดอกอีกแล้วแต่ไม่ดก เค้าว่าดอกขาวจะเปรี้ยวดอกแดงๆชมพูๆจะหวาน”
สำหรับที่เคยเขียนไปก่อนหน้านี้ว่าออกมาได้เกือบยี่สิบลูกนั้น ผู้อ่านหลายท่านคงสงสัยว่าเหตุใดจึงเหลือเพียงไม่กี่ลูกเท่านั้น คำตอบก็คือคนในบ้านผมนั้นเองที่ค่อยๆทยอยกิน(โดยที่ผมไม่รู้ตัว) และยังมีเหตุที่สองคือในระหว่างที่รออยู่นั้นลูกมะเฟืองก็เกิดการตกหล่นพื้น ไปซะก่อน กินไม่ได้ กับประการสุดท้าย(ซึ่งสร้างความโกรธเล็กน้อย)ก็คือมีคนแอบจิ๊กโดยไม่บอกกัน เลยนั้นเอง
นอกจากที่ผมคนหนึ่งได้นำรูปและเรื่องราวของมะเฟืองมาลงในบล็อก พ่อของผมก็ยังนำไปลงในบอร์ดของรุ่น ผลก็คือเป็นที่ฮือฮาตื่นเต้นกันเป็นการใหญ่ เนื่องจากมีหลายคนในรุ่นที่ปลูกมานานแล้ว แต่ลูกไม่ออกซะที จึงได้มีการสนทนาในวิธีการปลูกกันพอสมควร และที่ให้เหตุผลไปก็คือแค่ใส่ปุ๋ยให้ถูกเท่านั้น ไม่มากก็น้อยคนตอบยังสงสัยเองเลยว่าเป็นเพราะปุ๋ยที่ใส่ลงไปจริงๆหรือ?
…จนมาวันหนึ่งแม่บ้านผมก็สังเกตว่าตรงบริเวณโคนต้น ได้มีกิ่งแยกออกมาเป็นกิ่งใหญ่กับกิ่งเล็ก(ดูจากภาพล่าง) เมื่อไล่ดูไปตามแต่ละกิ่งพบว่ากิ่งเล็กมีลูกออกตามปกติ ในขณะที่กิ่งใหญ่ไม่มีลูกออกมาเลย จึงพอสรุปได้ว่ามีการใช้เทคนิคทาบกิ่ง(ผู้เขียนไม่แน่ใจนะครับว่าเรียกถูก หรือไม่) กิ่งเล็กเป็นกิ่งลูกดก ในขณะที่กิ่งใหญ่เป็นแบบรากแข็งแรงและอาจจะแก่ด้วย
แม่ผมซึ่งเป็นผู้ซื้อมาปลูกจากจตุจักร ไม่ทราบว่าเป็นต้นกิ่งทาบแต่ประการใด แต่ก็ดีแล้ว …ปริศนาได้รับการเฉลย …ดอกชุดใหม่กำลังบาน …รอให้สุก …แล้วก็กินนะสิครับ

ตำราปลูกต้นไม้โบราณ

ตำราปลูกต้นไม้โบราณhttp://suan_naratip.tripod.com/pictures/star01.jpg
อ่านพบบทความเรื่องการปลูกต้นไม้ ของคนโบราณ จากคอลัมน์ของคุณกิเลน ประลองเชิง ซึ่งคัดเอาเนื้อหามาจาก หนังสือ พฤกษนิยาย ของ ส.พลายน้อย ที่รวบรวมตำราปลูกต้นไม้ตามทิศเอาไว้ ซึ่งเรื่องนี้ มักมีผู้สนใจ และสงสัยกันมาก โดยเฉพาะต้นไม้ที่ “ต้องห้าม” หรือ “ไม่เป็นมงคล” ทั้งหลาย ผมเลยเอามาถ่ายทอดอีกที พร้อมทั้งพยายามแทรกความคิดเห็น และค้นคว้าข้อมูล มาเพิ่มเติม เพื่อให้นำไปใช้ประโยชน์ได้มากขึ้น เพราะถ้าอ่านตามตำรากันอย่างเดียว ผมเองยัง งง งง เลยครับ บางชื่อ บางต้น ก็ไม่เคยได้ยินเหมือนกัน ต้องเสียเวลาค้นคว้าพอสมควรครับ


ตำราปลูกต้นไม้ตามทิศนี้ เป็นตำราเก่า แต่งเป็นสำนวนกาพย์ยานี มีผู้แต่งไว้ แต่ไม่ทราบว่าผู้ใด...ดังต่อไปนี้ (สะกดการันต์ตามต้นฉบับเดิม)

จักกล่าวพรรณาหมู่ไม้ ให้ปลูกไว้รอบเคหา
ปลูกไว้โดยทิศา จักจำเริญขึ้นทุกวัน
ไม้ กุ่ม กอฤาษี สองสิ่งนี้ไม่มีพรรณ์
อาจารย์ท่านเศกสรร แสร้งให้ปลูกไว้ในหนบุรพ์ (ตะวันออก)

กระทิงยอ(ยอบ้าน) สาระภี สามสิ่งนี้อย่าให้สูญ
ปลูกไว้ให้บริบูรณ์ ในทิศาฝ่ายอาคเณย์ (ตะวัน-ออกเฉียงใต้)

ตะโกม่วงและมะพลับ ปลูกสำหรับในคาเม (บ้าน)
สามสิ่งนี้ท่านเส แสร้งให้ปลูกหนทักษิณ (ใต้)
สะเดาและพิกุล จำเริญคุณเป็นอาจิณ
ราชพฤกษ์เร่งนึกถวิล หามาปลูกหนหรดี (ตะวันตกเฉียงใต้)

พุทราและมะยม เป็นอุดมรุกขี
มะขามคุ้มไพรี ให้ปลูกไว้ปัจฉิมา (ใต้)
งั่วนาวแลมะกรูด ทั้งมะพูดแลนานา
เครื่องเก็บสระเกษา ให้ปลูกไว้หนพยัพ (ตะวันตกเฉียงเหนือ)

ส้มซ่าแลมะเดื่อ ทั้งส้มป่อยให้มีสรรพ
ปลูกไว้เป็นสำหรับ ไม้ประจำทิศอุดร (เหนือ)
มะตูมแลไม้รวก สองสิ่งนี้สถาพร
อาจารย์ท่านสั่งสอน ให้ปลูกไว้ทิศอิสาณ (ตะวันออกเฉียงใต้)

หนึ่งเล่าพันธุ์หมู่ไม้ ไว้มิได้ใกล้ถิ่นถาน
โพไทรยูงยางตาล ทั้งมะกอกแลหว้าแค
สำโรงสลัดได ไม้งิ้วง้าวทั้งนี้แล
อย่าไว้ให้อยู่แค่ เคหสถานมักมิด
แม้อยู่ที่ใกล้ๆ จะเกิดภัยทุกราตรี
เงาไม้มาทับยี จะยากแค้นแสนเข็ญใจ
ทั้งตัวจะตายด้วย ลูกเมีย ม้วยพิลาไลย
ช้างม้าแลข้าไท ทุนทรัพย์จะฉิบหาย

เพราะไม้หมู่นี้แล มีอยู่แค่จักอันตราย
เงาทับ ยับฉิบหาย เร่งขุดขนเสียจงไกล
จึงอยู่เย็นเป็นสุข บ มีทุกข์ บ มีภัย
จำเริญสวัสดีมีไชย ให้เป็นสุขทุกราตรี


นอกจากตำราปลูกต้นไม้ตามทิศ บรรยายด้วยสำนวนกาพย์ยานีแล้ว ยังมีตำราปลูกต้นไม้ ตามอักษรนาม ประจำทิศนวเคราะห์ ดังต่อไปนี้

ทิศบูรพา (ตะวันออก) ให้ปลูก แก้ว กรรณิกา กันเกรา
ทิศอาคเณย์ (ตะวันออกเฉียงใต้) ให้ปลูก แจง จันทน์
ทิศอุดร (เหนือ) ให้ปลูก สน สัก
ทิศกลาง ให้ปลูกไม้เกต
ทิศทักษิณ (ใต้) ให้ปลูก กระถิน พุด
ทิศพายัพ (ตะวันตกเฉียงเหนือ) ให้ปลูก ยอ รัง
ทิศปัจจิม (ตะวันตก) ให้ปลูก ปีบ ประดู่
และทิศหรดี (ตะวันตกเฉียงใต้) ให้ปลูก มะตูม แต้ว เต็ง



ส่วนตำราพรหมชาติฉบับสมบูรณ์ ก็มีตำราปลูกต้นไม้ไว้ในบริเวณบ้านเช่นกัน
บางต้นก็กล่าวไว้ตรงกัน บางต้นก็มีมากกว่า หรือแตกต่างกัน ดังนี้

สิทธิการิยะ ผู้ใดจะสร้างบ้านใหอยู่เย็นเป็นสุขสำราญ ให้เป็นมงคล ท่านให้ปลูกต้นไม้ไว้ จึงอยู่เป็นสุขสำราญดี

ทิศบูรพา ท่านให้ปลูกไม้ไผ่และต้นกุ่มต้นมะพร้าว ไข้ร้ายมิพบพาน อยู่เป็นสุขแล
ทิศอาคเนย์ ให้ปลูกตนสารภีและต้นยอ กันจัญไร
ทิศทักษิณ ท่านให้ปลูกต้นมะม่วงและต้นมะพลับ
ทิศหรดี ให้ปลูกพิกุล ขนุน ราชพฤกษ์ และสะเดา กันโทษ
ทิศปัจจิม ปลูกต้นมะขามและมะยม กันถ้อยความและผีพลาย
ทิศพายัพ ปลูกต้นมะกรูด
ทิศอุดร ปลูกตนพุทรา และหัวว่าน กันอาคมและมนต์คุณ
ทิศอีสาน ปลูกตนทุเรียน และขุดบ่อคงไว้

ถ้าผู้ใดทำได้ดังนี้ คนจะเกรงขาม ทรัพย์สินจะมาตาม อยู่เป็นสุขสำราญแล



ส่วนต้นไม้ ที่ท่านห้ามมิให้นำมาปลูกไว้ภายในบริเวณบ้าน ได้แก่

1. ต้นโพธิ์ เพราะเป็นต้นไม้ประจำวัดวาอารามเท่านั้น ส.พลายน้อย เขียนไว้ในคำนำหนังสือพฤกษนิยายว่า ต้นโพ หรือโพธิ์ เป็นต้นไม้ที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ และต้นไทร เป็นต้นไม้ที่พระกัสสปพุทธเจ้าตรัสรู้ ชาวพุทธจึงถือเป็นต้นไม้มงคล
2. ต้นไทร เพราะเป็นต้นไม้ใหญ่เกินไป ส่วนต้นไทร ในคัมภีร์ฤคเวท หมวดอธิสัมภวะ อธิบายไว้ เป็นต้นไม้ที่ให้กำเนิดชาวภารตะ ต้นไทรในทัศนะของชาวภารตะ เป็นต้นไม้อันประเสริฐ ในขณะที่ตำราไทย เขียนให้ต้นไทรเป็นต้นไม้กาลกิณี มีผลร้ายแรงถึงขนาด... ทั้งตัวจะตายด้วย ลูกเมียม้วยพิลาไลย... บ้านเรือนใดมี ต้องขุดทิ้งกันทันทีเลย
3. ต้นตะเคียน เพราะเป็นต้นไม้มีผีนางไม้สิงสู่
4. ต้นยาง เพราะเป็นต้นไม้โบราณนิยมเอามาทำหีบศพ
5. ต้นดอกทอง เพราะเป็นลาง จะทำให้คนภายในบ้านผิดประเวณีกันเอง


ตำรานี้ ดีหน่อย ที่ต้นไม้ที่ห้ามปลูก จะมีคำอธิบายไว้ด้วย ว่าไม่สมควรปลูกเพราะเหตุใด ทำให้เราปฏิบัติตาม ไดก้ง่ายขึ้น แต่ยังมีคำแนะนำเพิ่มเติมว่า “ให้พิจารณาดูด้วยว่า ต้นไม้ ดอกไม้ใด มีชื่อเรียกไม่เป็นมงคล ก็ห้ามนำมาปลูกภายในบริเวณบ้าน เช่น ต้นโศก ต้นระกำ ต้นหวาย กอไผ่ลวก เป็นต้น”

ซึ่งข้อนี้ ผมไม่ค่อยเห็นด้วยนัก เพราะเป็นแค่ชื่อ และความเชื่อ เราควรใช้วิจารณญานดูพันธุ์ไม้นั้นๆดีกว่า ว่ามันมีคุณสมบัติอะไร ควรปลูก หรือไม่ควรปลูก ยิ่งเดี๋ยวนี้ พอมีความเชื่อเรื่องชื่อที่เป็นมงคลมากๆ คนขายต้นไม้ก็จะสรรหาชื่อต้นไม้ทั้งหลาย ที่เกี่ยวกับ ทรัพย์สินเงินทอง โชคดี ร่ำรวย กันทั้งนั้น เพื่อส่งเสริมการขาย (และก็มักจะได้ผลเสียด้วย)

ลองมาวิเคราะห์ เรื่องข้อห้ามต่างๆดูบ้าง ว่ามีเหตุผลดีหรือไม่ อย่างไร

1. ต้นโพธิ์ เพราะเป็นต้นไม้ประจำวัดวาอารามเท่านั้น หรือเพราะเป็นต้นไม้ใหญ่ เหตุผลดังกล่าวก็เป็นเพียงความเชื่อเท่านั้น แต่เหตุผลที่แท้จริง คือ ไม้โพธิ์เป็นไม้รากร้อน ชอนไช อยู่ใกล้บ้านเรือน จะทำให้บ้านพังเสียหายได้
2. ต้นไทร เพราะเป็นต้นไม้ใหญ่เกินไป ก็เช่นเดียวกับต้นโพธิ์ นอกจากรากร้อนแล้ว ยังมีรากอากาศอีกด้วย ผมเอาแบบบอนไซมาปลูก เผลอหน่อยเดียว ไม่ได้ดูแล รากมันเลื้อยอ้อมกระถางลงไปในดิน แล้วก็โตเอา โตเอา นกก็ชอบมากินเม็ดไทร แถมขี้ไว้ให้กวาดล้างกันอีก
3. ต้นตะเคียน เพราะเป็นต้นไม้มีผีนางไม้สิงสู่ อันนี้ผมไม่แน่ใจ ตะเคียนเป็นไม้ใหญ่ เนื้อดี ลำต้นตรง เขานิยมเอาไปทำเรือยาว หรืออาจเพราะต้นมียางมาก กันน้ำดี แต่ไม่ทราบว่าปลูกในบ้านไม่ดีอย่างไร
4. ต้นยาง เพราะเป็นต้นไม้โบราณนิยมเอามาทำหีบศพ เลยถือว่าไม่เป็นมงคล คือเป็นความเชื่อ
5. ต้นดอกทอง เพราะเป็นลาง จะทำให้คนภายในบ้านผิดประเวณีกันเอง นี่ก็ชื่อไม่เป็นมงคล นั่นเอง
6. ต้นโศก หมายความถึงโศกเศร้า คือชื่อไม่เป็นมงคล แต่ต้น อโศก ก็พลอยโดนห้ามไปด้วย แม้ว่า อโศก จะมีความหมายว่า ไม่โศก ก็ตาม
7. ต้นมะเฟือง ท่านว่าไม่ดี คนมีวิชาขลัง-ลงขันต์ ถูกห้ามมิให้ลอดกิ่งมะเฟือง เป็นไม้ใหญ่อาจจะมีวิญญาณมาอาศัยอยู่ได้ ก็เป็นความเชื่อโบราณ ที่บ้านผมปลูกมะเฟืองไว้หลังบ้าน ออกลูกดก หวานมาก ปลูกมาเกือบ 20 ปี ต้นไม่ใหญ่ ลูกดกเก็บกินไม่ทัน แต่มีกระรอกมาช่วยกิน แล้วลูกก็จะร่วงเต็มพื้น ต้องคอยเก็บทิ้ง
8. ต้นสำโรง เป็นไม้ใหญ่อาจจะมีวิญญาณมาอาศัยอยู่ได้
9. ต้นมะรุม ผู้คนจะมารุมข่มเหงเอา นี่ก็เป็นเพราะชื่ออีก แต่คนตีความด้านไม่ดีซะมากกว่า ทำไมไม่ตีความว่า คนมารุมสรรเสริญบ้างน้า
10. ต้นกล้วยตานี เขาว่า จะมีนางไม้ เรียกนางตานีอาศัยอยู่ ก็เช่นเดียวกับต้นตะเคียนเลย
11. ต้นน้ำเต้า เป็นไม้เถา รูปคล้ายเต้านมสตรี คนมีวิชาอาคม ห้ามกินและห้ามลอดร้านน้ำเต้า เดี๋ยวนี้คงไม่มีบ้านไหนเขาเล่นวิชาอาคมกันแล้ว
12. ต้นกระทุ่ม ชื่อมีความหมายถึงทุ่มหรือขว้างปา นี่ก็คิดมากไปรึปล่าว ?
13. ต้นลั่นทม ความหมายเช่นเดียวกับระทม คือความทุกข์ ต้นนี้ถือเป็นตัวอย่างในเรื่องความเชื่อโดยแท้ จากลั่นทม ที่มีแต่คนรังเกียจ เมื่อกลายเป็นลีลาวดี ทำไมฮิตกันจัง ต้นนึงเป็นพันเป็นหมื่นเลยทีเดียว ต้นมันเอง ก็ไม่ได้ไปแจ้งเปลี่ยนชื่อมันเองที่อำเภอ เป็นเรื่องของมนุษย์ทั้งนั้น
14. ต้นสลัดได ปลูกในบ้านจะสลัดเอาของดีของงามออกไป (แล้วทำไมไม่คิดว่า จะสลัดความชั่วออกไปมั่งนะ)
15. ต้นมะขามเทศ ต้นหวาย เป็นของมีหนาม ทำให้เกิดอุปสรรค อันนี้ผมคิดว่าหนามเป็นอุปสรรค ในการปลูก และดูแลรักษามากกว่า เพราะถ้าหากถูกหนามมันเกี่ยวเอา ต้องได้เลือดแน่นอน แต่ปลูกนอกบ้าน เก็บผลขายได้กะตังค์นะครับ
16. ต้นชวนชม มีความหมายไปในทางชักชวนให้ชมเชย บ้านที่มีลูกสาวไม่ยอมปลูกต้นนี้เด็ดขาด นี่ก็ความเชื่อโบราณมากๆ เดี๋ยวนี้ไม่มีแล้วครับ ปลูกกันทั่วไปแล้ว
17. เต่าร้าง ชื่อออกไปในทางหย่าร้าง หรือร้างรา ตอนนี้ก็ปลูกกันเยอะเหมือนกัน แต่ที่จริงต้นนี้ ก็ไม่ควรปลูกใกล้บ้าน เพราะเวลาออกดอกจะมีละอองเกษรคันมาก ใครแพ้ละอองจะยิ่งแย่
18. ต้นมะละกอ ตำราหนึ่งว่ามะละ พ้องเสียงกับมะระ แปลว่าตาย (ดังนั้นมะระก็ปลูกไม่ได้เช่นกัน) แต่อีกหนึ่งว่าชื่อส่อไปในทางแตกแยก นี่ก็ไม่มีใครกลัวกันแล้ว ต้นไม้ที่มีผลยอดนิยม ปลูกเป็นพืชสวนครัว มะละกอดิบ ออกลูกเท่าไหร่ก็ไม่เหลือ ต้องกลายเป็นส้มตำหมด ส่วนที่บ้านผม นอกจากจะมีมะละกอธรรมดาแล้ว มะละกอฮาวาย และมะละกอฮอลแลนด์ ก็ให้ลูกหวานกรอบน่ากินมากๆครับ
19. ต้นนางแย้มป่า คนโบราณถือว่าเป็นต้นไม้ผีสิง วันดีคืนดีจะกลายเป็นผีเอาก้อนอิฐ ขว้างปาบ้าน ส. พลายน้อย ผู้เขียนตำราพืชพรรณไม้มงคล ยังติงว่า ทำไมต้นนางแย้มป่าจึงมีพฤติกรรมเหมือนเด็กมือบอน ก็ไม่ทราบได้ (แต่ตอนนี้แม้อยากจะปลูก ก็หายากแล้วครับ )
20. ต้นชบา ในอินเดียตอนใต้ เขาใช้ดอกชบาร้อยเป็นพวงมาลัยสวมคอนักโทษที่จะถูกประหารชีวิต จึงว่าเป็นดอกอัปมงคล ของเราแต่โบราณก็ให้เอาดอกชบาทัดหู เป็นการลงโทษแบบประจานวิธีหนึ่ง แต่ต้นชบานี่ ผมว่าเอามาปลูกทำแนวรั้วได้สวยมาก ประหยัด และสวยงาม
21. มะกอก เชื่อว่าทำให้เจ้าของบ้านกลายเป็นคนกลับกลอก เชื่อถือไม่ได้ แต่ผลเขาก็เห็นคนชอบกินกันจัง ถ้างั้นคนที่ชอบกินมะกอก มิยิ่งเป็นคนกลับกรอกกว่าหรือ (ไม่เห็นเหมือน แห้ว เลย)
22. รักเร่ ใครปลูกจะเป็นพวกหลายใจ นี่ก็เอาชื่อมาใส่ร้ายกันอีกแล้ว
23. ต้นสน เชื่อว่าต้องขัดสนไปตลอดชีวิต แต่เอาไปปลูกขายเป็นเสาเข็ม ก็เห็นรวยกันไปตลอดชีวิตเหมือนกัน ใบสนนี่ร่วงแล้วต้องคอยเก็บกวาด เสียเวลา บางที่ก็เห็นพวกจั๊กจั่น ชอบมาสิงสู่ ถึงเวลาร้องกันระงม ไม่ต้องหลับนอนกัน ดังนั้น ไม่ควรปลูกใกล้บ้าน แต่ไม่น่ารังเกียจ มีที่ว่างๆ ปลูกทิ้งไว้ พอโตก็ตัดขายเลยครับ
24. พุดตาน เนื่องจากดอกพุดตานเปลี่ยนสีได้ตลอดวันจากขาวเป็นชมพูอ่อนและเข้มขึ้นในตอนบ่ายทำให้เจ้าของเป็นคนสับปลับ (อ้าว! ว่าเขาอีกแล้ว) ดอกพุดตานนี่สวยนะครับ ขนาดโบราณ ช่างเขาก็เอาไปแกะสลักหรือเขียนลวดลายไทย ตามวัดวาอารามกันทั้งนั้น เวลาไปวัด ลองดูลายไทยทั้งหลาย แล้วลองหาดูลายดอกพุดตานดูนะครับ
25. ต้นตาล ( ตาลโตนด ) ไม่แน่ใจว่าทำไมห้ามปลูกในบริเวณบ้าน แต่ไม่ห้ามถ้าอยู่ตามทุ่งนาตามไร่ อาจจะเป็นเพราะต้นตาลสูงชะลูดขึ้นไปมาก ถูกฟ้าผ่าได้ง่าย จึงเกรงอันตรายกับคนในบ้านก็เป็นได้


ผมสรุปมาให้แค่นี้ ก็เสียเวลานานโขครับ สุดท้าย เดี๋ยวจะทำ ลิงค์ ตามชื่อคอกไม้โบราณ ทั้งหลาย ให้ตามไปดู คุณสมบัติของเขา กันอย่างละเอียด ตาม website อื่น ที่เขาลงเกี่ยวกับต้นไม้ไว้อย่างละเอียดแล้ว ไม่ต้องมาขียนซ้ำอีกทีครับ แต่แรกๆ อาจจะได้ไม่ครบ ต้องทยอยหาให้นะครับ

TraveLArounD